หน่วยการจัดการเรียนรู้ที่
1
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่
1 ห้อง
1
หน่วยการเรียนรู้ที่
4 เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่
แผนการจัดการเรียนรู้ที่
1 เรื่อง แรงและผลของแรง เวลาเรียน 1 ชั่วโมง
ผู้สอน นางสาว กนกวรรณ ดวงภมร โรงเรียนมหาวีรานุวัตร จังหวัดกรุงเทพมหานคร
วัน…………………..ที่………เดือน…………………….…พ.ศ……………… เวลาที่สอน……………………………..
หมายเหตุ…………………………………………………………………………………………………………………….……………………...
**************************************************************************************************
สาระที่ 4 แรงและการเคลื่อนที่
1.
วิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด
มาตรฐาน ว ๔.๑
เข้าใจธรรมชาติของแรงแม่เหล็กไฟฟ้า
แรงโน้มถถ่วง และแรงนิวเคลียร์ มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้
สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์อย่างถูกต้องและมีคุณธรรม
ตัวชี้วัด ม.๑/๑
สืบค้นข้อมูลและอธิบายปริมาณสเกลาร์ ปริมาณเวกเตอร์
จากมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด
ผู้เรียนต้องได้เรียนรู้และสามารถอธิบายความหมายของแรง ผลที่เกิดจากแรง
ปริมาณสเกลาร์ ปริมาณเวกเตอร์ได้
2.
จุดประสงค์การเรียนรู้
1.
นักเรียนสามารถอธิบายความหมายของแรงและผลของแรงได้ (K)
2. นักเรียนสามารถทำการทดลองเรื่องแรงและผลที่เกิดจากแรงได้
(P)
3.
นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทำงาน (A)
บทบาทครู
|
บทบาทผู้เรียน
|
Plan
|
Desing
|
Management
|
Learning
|
Evaluation
|
Assessment
|
2. ออกแบบการสอน
ผู้เรียนเลือกสื่อการสอน ได้แก่ สื่อจริง พาวเวอร์พ้อย วีดีโอ
หนังสือเรียน ใบความรู้ที่ผู้เรียนคิดว่าเหมาะกับเรื่องที่เรียนและทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้มากที่สุด
3. สื่อการสอนที่ดีที่สุด
สื่อจริง
ใบความรู้
4. วิธีการสอน
ผู้เรียนเลือกวิธีการสอน
ได้แก่ สอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) สอนแบบการทดลอง สอนแบบบรรยาย สอนแบบสาธิตการสอนแบบจิตปัญญาการเรียนรู้
5. การสอนที่เหมาะสม
ผู้เรียนออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ตามวิธีการสอนแบบจิตปัญญาการเรียนรู้
โดยมีกิจกรรมการเรียนรู้ดังนี้
ขั้น 1 การรู้จักตนเอง (5
นาที)
- ครูแจกกระดาษ A4 ให้นักเรียนคนละ 1 แผ่น
- นักเรียนวิเคราะห์ตนเองในประเด็นคำถามว่า
“ในชีวิตประวันของนักเรียนเคยออกแรงในการทำกิจกรรมใดบ้างและคำว่าแรงที่เราพูดถึงนั้นมีความหมายว่าอย่างไร”
(แนวคำตอบ: การออกแรงผลักประตู, แรง คือ การกระทำต่อวัตถุเพื่อเปลี่ยนสภาพเดิมของวัตถุ)
-
นักเรียนบันทึกคำตอบลงในกระดาษ
- นักเรียนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนในประเด็นที่ถามและมีการรับฟังความคิดเห็นของเพื่อน
ขั้นที่ 2 การเชื่อมโยงประสบการณ์เดิมและใหม่
(10 นาที)
-
นักเรียนเตรียมความพร้อมโดยการนั่งสมาธิเป็นเวลา 3 นาที
พร้อมทบทวนความรู้เดิมของนักเรียน
- ครูกระตุ้นความสนใจของผู้เรียนโดยให้นักเรียนหนึ่งคนออกมาผลักโต๊ะหน้าห้องเรียนให้นักเรียนสังเกตแล้วตั้งคำถามว่า
“โต๊ะเคลื่อนที่ได้เพราะเหตุใด” (แนวคำตอบ:
เพราะมีแรงมากระทำ)
- นักเรียนร่วมกันตอบคำถาม
- ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ว่า
“ในชั่วโมงนี้เราจะเรียนเรื่อง แรงและผลของแรง” พร้อมเขียนกระดานหน้าชั้นเรียน “หลังจากจบชั่วโมงนี้นักเรียนสามารถอธิบายความหมายของแรงและผลของแรงได้,
นักเรียนสามารถทำการทดลองเรื่องแรงและผลที่เกิดจากแรงได้, นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทำงาน”
ขั้นที่ 3 การสร้างองค์ความรู้ (20
นาที)
- ครูจำลองสถานการณ์เพื่อให้นักเรียนออกมาสาธิต
และทำการทดลองที่ 1 เรื่องแรงและผลที่เกิดจากแรง
โดยครูเตรียมอุปกรณ์การทดลองไว้ก่อน
1) การตั้งประเด็น:
นักเรียนตั้งประเด็นร่วมกันให้ได้ว่าแรงและผลที่เกิดจากแรงเป็นอย่างไร
2) ศึกษา ค้นคว้า
รวบรวมข้อมูล: นักเรียนศึกษาค้นคว้าความรู้เพิ่มเติมจากหนังสือเรียนหรืออินเทอร์เน็ต
3)
ลงมือปฏิบัติ:
- สถานการณ์ที่ 1 นักเรียนผลักกำแพงห้อง
โดยให้นักเรียนชายหนึ่งคนออกไปยืนหน้าชั้นเรียนใกล้กับกำแพงห้อง
และใช้เท้าที่ถนัดวางข้างหน้า ส่วนอีกเท้าวางไปทางข้างหลัง จากนั้นใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างออกแรงผลักกำแพงห้องพร้อมๆกัน
สังเกตผลที่เกิดขึ้น
- สถานการณ์ที่ 2 นักเรียนตีลูกปิงปอง
โดยการให้นักเรียนชายสองคนออกมารับลูกปิงปองและไม้ตีปิงปองจากครู
และใช้ต๊ะเรียนหนึ่งตัวจัดเป็นโต๊ะปิงปองให้นักเรียนทั้งสองออกแรงตีลูกปิงปองเป็นเวลา
30 วินาที
เพื่อให้นักเรียนทุกคนสังเกตผลการเปลี่ยนแปลงจากการที่นักเรียนทั้งสองคนออกแรงตีลูกปิงปอง
- สถานการณ์ที่ 3 นักเรียนเตะลูกฟุตบอล โดยการให้นักเรียนชายจำนวนสี่คนออกมาสาธิต
และให้นักเรียนคนหนึ่งมารับลูกฟุตบอลจากครู
จำลองพื้นที่ห้องเรียนให้กว้างพอประมาณและเหมาะสม
ให้นักเรียนทั้งสี่คนสาธิตการเตะฟุตบอลเสมือนกับการเล่นฟุตบอลในสนามจริง เป็นเวลา 30
วินาที
ให้นักเรียนทุกคนสังเกตผลการเปลี่ยนแปลงจากการที่นักเรียนทั้งสี่คนออกแรงเตะลูกฟุตบอล
- สถานการณ์ที่ 4 นักเรียนปั้นดินน้ำมัน โดยการให้นักเรียนหญิงหนึ่งคนออกมารับดินน้ำมันจากครู
แล้วให้ปั้นดินน้ำมันเป็นรูปต่างๆ ตามความต้องการของนักเรียนหญิงคนนี้
ให้เพื่อนนักเรียนทุกคนสังเกตผลการเปลี่ยนแปลง
จากการที่นักเรียนหญิงคนนี้ออกแรงปั้นดินน้ำมันเป็นรูปต่างๆ
- นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น
5 กลุ่มๆละ 5-6 คน
ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มทำการทดลองที่ 1 เรื่องแรงและผลที่เกิดจากแรง
ตามสถานการณ์ทั้ง 4 สถานการณ์ที่กำหนดให้
และสังดกตการเปลี่ยนแปลงของวัตถุขณะที่เพื่อนในกลุ่มกำลังสาธิตและช่วยกันระดมความคิดวิเคราะห์ว่า
สิ่งที่ทำให้วัตถุเปลี่ยนสภาพไปจากเดิมคืออะไรและบันทึกผลการทดลองลงในใบทดลองที่ 1
เรื่องแรงและผลที่เกิดจากแรง
4) การวิเคาะห์: นักเรียนพูดคุยร่วมกันวิเคราะห์การทดลองว่าแรงที่กระต่อวัตถุในแต่ละสถานการณ์เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
5) การสังเคราะห์: นักเรียนพูดคุยร่วมกันสังเคราะห์เกี่ยวกับแรงและผลที่เกิดจากแรงเป็นอย่างไร
ขั้นที่ 4 การแลกเปลี่ยนความรู้และขยายผล
(15 นาที)
-
นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอผลการทดลองให้เพื่อนๆฟังหน้าชั้นเรียน
โดยมีการแลกเปลี่ยนและขยายผลดังนี้
1)
การแสดงความคิดเห็นร่วมกัน: ตัวแทนกลุ่มแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการทดลองของตนเอง
นักเรียนร่วมกันตั้งคำถามและเสนอความคิดเห็นในการนำเสนอผลการทดลองของเพื่อน
2) การประเมินผล: ครูและนักเรียนร่วมกันประเมินผลการทดลองเพื่อให้ได้ข้อสรุปร่วมกันว่า
“การกระทำของแรงต่อวัตถุ
ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของวัตถุที่อยู่นิ่งอาจเริ่มเคลื่อนที่ เปลี่ยนอัตราเร็วของวัตถุ
เปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ของวัตถุ และเปลี่ยนขนาดหรือรูปทรงของวัตถุ”
3)
การขยายความรู้เพิ่มเติม: ครูให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความหมายของแรงว่า
“แรง หมายถึง การกระทำต่อวัตถุ
ซึ่งสามารถกระทำหรือพยายามที่จะกระทำต่อวัตถุให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพการเคลื่อนที่หรือเปลี่ยนลักษณะรูปร่าง”
หรืออีกความหมายหนึ่ง “แรง คือ
สิ่งที่กระทำต่อวัตถุในรูปของการดึงหรือการผลัก เพื่อวัตถุเคลื่อนที่
แต่เมื่อออกแรงกระทำต่อวัตถุแล้ววัตถุนั้นอาจจะเคลื่อนที่หรือไม่เคลื่อนที่ก็ได้
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดและทิศทางของแรงต่างๆที่มากระทำต่อวัตถุ” และขยายความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแรงในชีวิตประจำวันนอกเหนือจากในสถานการณ์การทดลอง
ขั้นที่ 5 การนำไปใช้และการประยุกต์
(10 นาที)
1) การอภิปราย: นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่าจากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรม
มีจุดใดบ้างที่ยังไม่เข้าใจหรือยังมีข้อสงสัย เปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัย
2) การนำเสนอ:
นักเรียนร่วมกันประเมินการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มว่ามีปัญหรืออุปสรรคใดและได้มีการแก้ไขอย่างไรบ้าง
3) การสะท้อนผลการเรียนรู้:
นักเรียนทำใบงานที่ 1 เรื่องแรงและผลของแรง
6. แบบฝึกหัด/ใบงาน
ผู้เรียนทำใบงานที่
1 เรื่องแรงและผลของแรง
7. ผู้เรียนประเมินตนเอง
ผู้เรียนมีการวิเคราะห์ตนเองว่ามีความเข้าใจในเรื่องแรงและผลของแรงมากน้อยเพียงใด
สามารถอธิบายความหมายของแรงและผลที่เกิดจากแรงได้หรือไม่
8. ผู้สอนประเมินผู้เรียน
ผู้สอนประเมินผู้เรียนโดยการประเมินจากการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน
ได้แก่ การมีมุ่งมั่นในการทำงาน การร่วมทำกิจกรรมการทดลอง
9. การสืบค้นเพิ่มเติม
ผู้เรียนสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมจากสิ่งที่ได้เรียนรู้มาเพื่อให้เกิดความเข้าใจได้มากยิ่งขึ้น
จากเพื่อนที่อยู่ภายในกลุ่ม จากเพื่อนในห้อง จากครูผู้สอน ห้องสมุด
และจากแหล่งเทคโนโลยีสารสนเทศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น